และแล้วก็ถึงช่วงเวลาสำคัญของเหล่าคนทำงานกันอีกครั้ง กับฤดูกาล “ยื่นภาษี” ชวนปวดหัว แต่จะไม่ต้องปวดกันอีกต่อไป เพราะปัจจุบันนี้กรมสรรพากรได้ปรับเปลี่ยนวิธีการยื่นภาษีใหม่ให้เราใช้งานได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบายมากขึ้นผ่านระบบที่เรียกว่า “E-Filing” ซึ่งเป็นระบบยื่นแบบและชำระภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์แบบใหม่ โดยเพียงแค่เตรียมเอกสารให้พร้อมก็สามารถเปิดเว็บไซต์ดำเนินการยื่นภาษี ติดตามผล และตรวจสอบการคืนภาษีได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง เรียกว่าเข้ามาช่วยขจัดทุกปัญหา “ภาษี” ที่หลายคนขยาดแบบ One Stop Service ครบจบในเว็บเดียวกันไปเลย
ยื่นภาษีออนไลน์ไม่ยากอย่างที่คิด ทำเองได้ผ่านระบบ E-Filing
รู้จักระบบ “E-Filing” จัดการเอกสารราชการผ่านออนไลน์แบบไม่ยุ่งยาก
“E-Filing” คือระบบการให้บริการยื่นคำร้องและขอหนังสือหรือเอกสารราชการต่าง ๆ ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยผู้ใช้สามารถเรียกใช้และอัพโหลดไฟล์เหล่านั้นผ่านอินเทอร์เน็ตได้ และยังช่วยอำนวยความสะดวกและความรวดเร็วแก่ประชาชน จากที่ต้องเดินทางไปถึงจุดบริการและต้องไปในเวลาทำการของราชการเท่านั้นให้สามารถใช้บริการที่จำเป็นต่าง ๆ ผ่านหน้าเว็บไซต์ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง เพียงแค่มีอินเตอร์เน็ตก็เข้าถึงการบริการได้ตลอดเวลา นอกจากกรมสรรพากรแล้ว ยังมีองค์กรของรัฐที่ใช้ระบบ E-Filing ในการดำเนินการด้านเอกสาร อาทิ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมบังคับคดี กรมทรัพย์สินทางปัญญา ไปจนถึงศาลยุติธรรมอีกด้วย
ก่อนคลิกยื่นภาษี ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง?
ก่อนทำการยื่นภาษีออนไลน์ อย่าลืมเตรียมเอกสารที่จำเป็นให้พร้อมและครบถ้วน เพื่อให้การยื่นภาษีไม่มีข้อผิดพลาดให้ต้องกลับมาแก้ไขกันบ่อย ๆ ดังนี้
- เอกสารแสดงรายได้ ซึ่งก็คือ “หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย” หรือ “ใบ 50 ทวิ” จากนายจ้าง ซึ่งเป็นเอกสารที่ระบุว่าเรามีรายได้ตลอดทั้งปีรวมเท่าไหร่ และมีการหักชำระเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือประกันสังคมรวมแล้วเท่าไรบ้าง
- รายการลดหย่อนภาษีต่าง ๆ เช่น ค่าเลี้ยงดูบิดา-มารดา บุตร หรืออุปการะคนพิการ
- เอกสารประกอบการลดหย่อนภาษี เช่น ประกันชีวิตแบบบำนาญ ประกันสุขภาพของบิดา-มารดา เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จำนวนเงินที่ซื้อกองทุน RMF / SSF ค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าหรือบริการ สิทธิลดหย่อนจากโครงการรัฐบาล และเงินบริจาคต่าง ๆ อาทิ เพื่อการศึกษา กีฬา การพัฒนาสังคม โรงพยาบาลรัฐ ไปจนถึงการบริจาคให้พรรคการเมือง เป็นต้น
พร้อมแล้วลุยเลย! รวมขั้นตอนยื่นภาษีออนไลน์ง่าย ๆ ผ่านระบบ “E-Filing”
1. เข้าสู่เว็บไซต์ของกรมสรรพากร efiling.rd.go.th และระบบ E-Filing
เมื่อเข้าสู่เว็บไซต์แล้วให้คลิก “ยื่นแบบออนไลน์” ต่อด้วยเข้าสู่ระบบ E-Filing โดยการกรอกเลขบัตรประชาชนในช่องชื่อผู้ใช้งาน พร้อมกรอกรหัสผ่าน และกด “ตกลง” จากนั้นยืนยันตัวตนด้วยรหัส OTP 6 หลัก ผ่านเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ระบุไว้ แล้วเลือกกดยื่นแบบ ภ.ง.ด.90/91 (“ภ.ง.ด.91” สำหรับคนที่มีเงินได้ประเภทเดียวคือ “เงินเดือน” และ “ภ.ง.ด.90” สำหรับคนที่มีเงินได้หลายประเภท นอกจากเงินเดือน อาทิ ค่าจ้าง ค่าช่า ดอกเบี้ยและเงินปันผล เงินได้อื่น ๆ )
2. ดึงข้อมูลค่าลดหย่อนอัตโนมัติและตรวจสอบข้อมูลส่วนตัว
คลิกที่ “ตรวจสอบข้อมูล” ระบบจะแสดงผลข้อมูลค่าลดหย่อนภาษีต่าง ๆ บางส่วนให้อัตโนมัติ จากนั้นให้คลิก “กดยื่นแบบโดยใช้ข้อมูล” เพื่อตรวจสอบ ปรับปรุง แก้ไขข้อมูลต่าง ๆ ให้ถูกต้อง
3. กรอกข้อมูลส่วนตัว
ระบบจะแสดงข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ เช่น เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (เลขบัตรประชาชน), ชื่อ-นามสกุล, วันเดือนปีเกิด, สถานที่ติดต่อ (สถานที่ตามบัตรประชาชน), ร้านค้า/กิจการส่วนตัว (ถ้ามี), สถานะในปัจจุบัน (โสด หม้าย และสมรส) ให้กรอกข้อมูลให้ครบ เสร็จแล้วคลิกไปขั้นตอนถัดไป
4. กรอกเงินได้
ระบบจะแสดงหน้ารายได้จากแหล่งต่าง ๆ เช่น เงินเดือน, ฟรีแลนซ์-รับจ้างทั่วไป-วิชาชีพอิสระ, ทรัพย์สินการทำธุรกิจ, การลงทุน และมรดกหรือได้รับมา สำหรับพนักงานออฟฟิศให้เลือกรายได้จากเงินเดือน คลิกระบุข้อมูล แล้วกรอกรายละเอียดต่าง ๆ เช่น รายได้ทั้งหมด, ภาษีหัก ณ ที่จ่าย, เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของนายจ้าง และกดบันทึก
5. กรอกค่าลดหย่อนภาษีต่างๆ
อาทิ ค่าลดหย่อนส่วนตัวและครอบครัว เช่น ค่าเลี้ยงดูบิดา-มารดา บุตร, ค่าลดหย่อนด้านการออมและการลงทุน เช่น ประกันชีวิตแบบบำนาญ เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จำนวนเงินที่ซื้อกองทุน RMF / SSF, ค่าลดหย่อนจากสินทรัพย์และมาตรการนโยบายภาครัฐ เช่น ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อซื้อ เช่าซื้อ หรือสร้างอาคารที่อยู่อาศัย และค่าลดหย่อนบริจาค เช่น เงินบริจาคสนับสนุนการศึกษา สถานพยาบาล ฯลฯ
6. ตรวจสอบข้อมูล
ตรวจสอบข้อมูลเงินได้และค่าลดหย่อนทั้งหมดที่ได้กรอกไป โดยระบบจะทำการคำนวณภาษีที่ต้องชำระให้อัตโนมัติ ซึ่งหากมีการชำระภาษีไปแล้วระบบจะแจ้งยอดที่ชำระเกิน โดยสามารถขอคืนภาษีที่ชำระเกินได้ หรือหากยื่นภาษีออนไลน์แล้วระบบขึ้นว่า ต้องชำระภาษีเพิ่มเติม ให้เลือกชำระภาษีตามช่องทางต่าง ๆ ที่กรมสรรพากรระบุไว้ได้ทันที
7. ยืนยันการยื่นแบบ
เมื่อตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดถี่ถ้วนดีแล้ว กดปุ่ม “ยืนยันการยื่นแบบ” เพียงแค่นี้ก็ถือว่าการยื่นภาษีออนไลน์เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย
ไม่ว่าคุณจะเป็นคนทำงานแบบไหน จะเป็นงานประจำหรืองานอิสระตามไลฟ์สไตล์ก็อย่าลืมยื่นภาษีให้ถูกต้องสมบูรณ์ตามกฎหมาย ส่วนใครกำลังมองหางานดี ๆ ที่จะช่วยเพิ่มรายได้จากภาษีให้กับประเทศ ลองเข้าไปค้นหางานมากมายหลากหลายรูปแบบที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของทุกคนได้ทันทีที่ JOBTOPGUN ได้เลย
ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหางาน อยากสมัครงานบริษัทตำแหน่งไหน จะเป็นเด็กจบใหม่ไฟแรง หรือต้องการมองหางานประจำที่ช่วยขยับขยายเปลี่ยนสาย Job ให้ก้าวหน้า ก็สามารถหางานด่วนที่ใช่ ในบริษัทที่ถูกใจ ได้ที่ JOBTOPGUN ทั้งทางเว็บสมัครงานออนไลน์ ที่รวบรวมงานพร้อมข้อมูลเงินเดือนจากบริษัทชั้นนำไว้มากมายกับแอปหางานที่อัปเดตใหม่ทุกวัน ดูแลให้คุณได้งานจริง ด้วย Super Resume ที่ให้คุณสร้าง Resume อย่างมืออาชีพ นำเสนอคุณให้โดดเด่นกว่าใคร ยังมีรีวิวบริษัทที่ช่วยให้คุณรู้จักบริษัทมากขึ้นตามความจริง โหลดแอป JOBTOPGUN ได้เลยวันนี้ แม้จบใหม่ก็หางานง่าย ได้งานดี ได้ที่ JOBTOPGUN